“ระทึก! รัสเซียโจมตีครั้งใหญ่! ขีปนาวุธถล่มยูเครน ส่งผลเสียชีวิต 51 ราย เจ็บ 271”

รัสเซียโจมตียูเครนครั้งใหญ่! 51 ชีวิตสูญเสีย, 271 เจ็บหนัก: เซเลนสกีเรียกร้องความช่วยเหลือจากชาติพันธมิตร

การโจมตีครั้งใหญ่ของรัสเซียต่อยูเครนในเช้าวันที่ 3 กันยายน 2567 ทำให้โลกต้องตะลึง! ขีปนาวุธพิสัยไกล 2 ลูกพุ่งตรงสู่เมืองปอลตาวา ซึ่งเป็นศูนย์กลางการศึกษาทางการทหารและโรงพยาบาล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 51 คนและบาดเจ็บ 271 คน ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่เริ่มสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน

ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกภาพความเสียหายของอาคารในเมืองปอลตาวาอย่างชัดเจน หลังเสียงระเบิดที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 09.08 น.ตามเวลาท้องถิ่น รัสเซียไม่เพียงแต่โจมตีพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาและสุขภาพ แต่ยังทำให้สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นเพียงไม่กี่นาที ก่อนที่จะเกิดการระเบิดรุนแรง ทำให้ประชาชนไม่มีเวลาหาที่หลบภัย

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนออกมาแถลงอย่างเร่งด่วนว่า "รัสเซียต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีครั้งนี้" พร้อมทั้งสั่งการให้มีการสอบสวนโดยด่วนเพื่อหาสาเหตุและความรับผิดชอบ โดยเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการช่วยชีวิตผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีผู้ติดอยู่มากถึง 15 คน

เซเลนสกียังเรียกร้องให้ชาติพันธมิตรส่งมอบระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม พร้อมทั้งยกเลิกข้อจำกัดการใช้อาวุธพิสัยไกล เพื่อให้ยูเครนสามารถโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียได้ ซึ่งเขามองว่าการโจมตีจากระยะไกลจะสามารถปกป้องชีวิตประชาชนจากการโจมตีได้มากยิ่งขึ้น และลดการสูญเสียชีวิต

ในขณะเดียวกัน วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียเดินทางเยือนกรุงอูลานบาตอร์ของมองโกเลียอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น แม้ว่าปูตินจะเป็นเป้าหมายของหมายจับจากศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ในข้อหาการเนรเทศเด็กชาวยูเครนไปยังรัสเซียอย่างผิดกฎหมาย การเยือนมองโกเลียครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ปูตินเดินทางไปยังประเทศสมาชิก ICC นับตั้งแต่มีหมายจับ

โฆษกรัฐบาลรัสเซียยืนยันว่าไม่มีความกังวลเกี่ยวกับการจับกุมปูตินในระหว่างการเยือนครั้งนี้ เนื่องจากรัสเซียไม่ได้เป็นสมาชิกของ ICC และหมายจับจะมีผลบังคับใช้เฉพาะในกรณีที่ปูตินเดินทางไปประเทศสมาชิกเท่านั้น

ทั้งนี้ ยูเครนได้เรียกร้องให้มองโกเลียปฏิบัติตามหมายจับและส่งตัวปูตินไปยังศาลอาญาระหว่างประเทศที่กรุงเฮก ซึ่งแสดงถึงความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างยูเครนกับรัสเซียและการสนับสนุนที่ยูเครนได้รับจากชาติต่างๆในช่วงเวลานี้

การโจมตีที่รุนแรงนี้เป็นการตอกย้ำความรุนแรงของสงครามระหว่างสองประเทศ และยิ่งทำให้โลกต้องตระหนักถึงความจำเป็นในการหาทางออกอย่างเร่งด่วนเพื่อยุติสงครามและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่าง