#Saveทับลาน ปัญหาแห่งความขัดแย้งระหว่างรัฐและชาวบ้าน" #Saveชาวบ้าน

ข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการคัดค้านการขยายพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน (Tublan National Park) ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมีรายละเอียดดังนี้:

ประวัติความขัดแย้ง: ปัญหาการจัดการพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานได้เกิดขึ้นตั้งแต่รัฐบาลให้สัมปทานป่าไม้ในอดีต และส่งเสริมให้ชาวบ้านเข้าไปทำงานในพื้นที่นี้ ซึ่งในภาวะนี้ชาวบ้านมีสิทธิที่ดินและทรัพย์สินที่ตั้งอยู่ในพื้นที่นั้นอยู่แล้ว

นโยบายใหม่ของรัฐบาล: รัฐบาลได้เปลี่ยนแปลงนโยบายโดยการเพิ่มพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติทับลานโดยไม่ได้สำรวจพื้นที่จริง ทำให้เกิดความขัดแย้งกับชุมชนท้องถิ่นที่มีการใช้ประโยชน์จากพื้นที่นี้ตลอดเวลา

การตอบสนองจากชุมชน: ข่าวนี้ได้ส่งผลให้เกิดการคัดค้านอย่างกว้างขวางจากชุมชนและสังคมท้องถิ่น ซึ่งมีการสร้างความร่วมมือกันในสื่อออนไลน์ผ่านแฮชแท็ก #Saveทับลาน เพื่อสร้างการตระหนักในปัญหานี้

ข้อบกพร่องในการจัดการ: มีข้อบกพร่องในการจัดการเนื่องจากความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับขอบเขตของพื้นที่ที่ถูกประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างรัฐและชุมชน

มติคณะรัฐมนตรี: ในวันที่ 14 มีนาคม 2566 มีมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ และการปรับปรุงแนวเขตอุทยานตามข้อบังคับ ที่มีวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงให้เป็นไปตามกฎหมาย

ความเห็นจากเจ้าหน้าที่: ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติได้เปิดเผยว่า มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและชุมชนท้องถิ่นเกี่ยวกับการปรับปรุงแนวเขตอุทยานตามมติคณะรัฐมนตรี

การขยายพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานนั้นเป็นเรื่องที่ต้องการการพิจารณาในมิติหลายด้าน เนื่องจากผลกระทบที่มีต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมอาจมีความซับซ้อนและต้องมีการแก้ไขข้อบกพร่องในการจัดการให้เหมาะสม

ทำไมปัญหาเขตป่าไม้ที่ดินอำเภอวังน้ำเขียวจึงเป็นพื้นที่การเมืองมาตลอด

เพราะพื้นที่ไหนที่มีความคลุมเครือไม่ชัดเจนเรื่องเขตป่าไม้ที่ดินอย่างอำเภอวังน้ำเขียว ก็กลายเป็นพื้นที่แสวงประโยชน์ มีการเรียกค่าใช้จ่ายแก้ปัญหากับคนที่ครอบครองพื้นที่ เมื่อปัญหาพื้นฐานเดิมคือแนวเขตไม่ชัดเจน ไม่ลงตัว หน่วยงานรัฐถือแผนที่คนละฉบับ ประกอบกับการปล่อยปละละเลยของหน่วยงานรัฐทุกฝ่าย เลยทำให้ปัญหาดังกล่าวปะทุขึ้น และถูกหยิบฉวยมาเป็นประเด็นการเมือง

พื้นที่เปราะบางอย่างวังน้ำเขียว ที่มีปัญหาความไม่ชัดเจนของพื้นที่ป่า สปก.ก็เป็นช่องทางทำมาหากิน มีการเรี่ยรายเงิน เรียกค่าส่วยกับผู้ถือครองที่ดิน

ทั้งหมดสะท้อนความไม่ลงตัวการจัดสรรที่ดิน ตั้งแต่ยุคการออก สปก.ที่ภูเก็ต ที่กลายเป็นประเด็นการเมืองจนล้มรัฐบาลในขณะนั้น ประเด็นการทับซ้อนระหว่างเขตป่าไม้กับ สปก.จึงพร้อมจะเป็นประเด็นการเมืองขึ้นมาได้ตลอด

แล้วชาวบ้านในพื้นที่เดือดร้อนหรือไม่

ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบ เขาไม่ได้ตื่นเต้น เขาเฉย ๆ เขาเห็นเป็นเกมส์การเมือง เพราะความขัดแย้งทั้งหมดเป็นเรื่องอำนาจของหน่วยงานรัฐ ซึ่งไม่ได้มุ่งแก้ปัญหาทั้งการอนุรักษ์ป่า และการรับรองสิทธิในที่ดินของชาวบ้านอย่างจริงจัง แม้แต่นโยบายเปลี่ยน สปก.เป็นโฉนด เขาก็ไม่ตื่นเต้นเพราะรู้ว่าไม่ใช่โฉนดจริง