"เด็กแฝดถูกไฟคลอกคว้าชีวิตในวัดสวนแก้ว: พระพยอมเผยเหตุหนักสุดในรอบ 50 ปี"

เด็กกำพร้าที่ถูกไฟคลอกดับในวัดสวนแก้ว เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจให้กับชุมชนและสังคมทั้งหลาย พระพยอม เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้เผยว่าเหตุการณ์นี้เป็นเหตุหนึ่งในสิ่งหนักที่สุดที่เกิดขึ้นในรอบ 50 ปี

ที่ผ่านมาในวัด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมผู้สืบสวนกำลังทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุและข้อสรุปของเหตุการณ์นี้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในตำนานบางเลน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เวลาประมาณ 00.30 นาฬิกาในวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา

โดยมีเด็กชาย 3 คนเสียชีวิตในเพลิงหนัก คู่แฝดชายอายุ 11 ปีและเด็กชายอายุ 9 ปี ซึ่งเป็นเด็กกำพร้าที่ได้รับการศึกษาและอุปการะจากวัด โดยต่างคนมีชื่อประชาชนว่า ปัณณวิชญ์ และปัณณวัฒน์ ชูติมัสตานนท์ และธีรพงษ์ รบศรี ตามลำดับ พร้อมทั้งเด็กอีก 2 คน

ที่รอดชีวิตต่างก็เป็นเด็กกำพร้าเช่นกัน หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยของวัดสวนแก้วได้กล่าวว่ามีข้อขัดแย้งในเรื่องของประตูที่ล็อกหรือไม่ล็อก ซึ่งตัวเหตุการณ์นั้นไม่ได้เกิดจากการล็อกประตูด้านนอก แต่จริงๆ แล้วเป็นเด็กที่เปิดประตูห้องเข้าไปและไปดับเพลิงในห้อง

ส่วนที่ต้องตัดเหล็กเพื่อช่วยเหลือเด็กก็เป็นเพราะโครงสร้างที่รับน้ำหนักของเจ้าหน้าที่ไม่ไหว จึงต้องทำการตัดเหล็กเพื่อช่วยเหลือ

พระพยอมกล่าวว่าเหตุการณ์นี้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในรอบ 50 ปีที่วัด และมีจำนวนเด็กมาเล่นกันมากกว่าที่เคยมีมาก่อน ดังนั้นเหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและเป็นการสะท้อนถึงความสำคัญของการดูแลเด็กในชุมชน

อาจารย์และเจ้าหน้าที่วัดได้ทำหน้าที่เลี้ยงเด็กมานับสิบปีแล้ว และต้องพิจารณาเหตุการณ์นี้เป็นประวัติศาสตร์ของวัดที่จะสอนให้เหล่าพระสงฆ์และเด็กหลวงคำนึงถึงความปลอดภัยและการดูแลเด็กอย่างเต็มที่ในอนาคต

นางเกษร อายุ 42 ปี กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกชายฝาแฝดของตนอย่างมาก เพราะตนได้เจอลูกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ตนก็อยากบอกลูกว่า "แม่มาหาลูกแล้วนะแม่ไม่รู้ว่าลูกจะได้ยินเสียงแม่ไหม ถ้าได้ยินเสียของแม่มาหาแม่ด้วยนะลูก แม่รู้สึกเสียใจมากประสบการณ์แบบนี้แม่ไม่เคยเจอ แม่ว่าจะมาหาลูกในวันที่ 8 มิ.ย. เดือนหน้าแต่สุดท้ายแม่ต้องมาเจอแบบนี้รู้ว่า

ลูกตาย ถ้าแม่ตายไปกับลูกได้แม่จะตายไปด้วย ถ้าถามว่าแม่มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ไหม แม่บอกเลยแม่ไปไม่เป็น"

นางเกษร กล่าวต่อว่า ตนได้คุยกับลูกก่อนเกิดเหตุเพียง 3 วัน หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกับลูกอีกเพราะต้องทำงาน ตนมาทราบข่าวหลังทำงานออกมาตอน 6 โมงเช้า อาที่เลี้ยงลูกชายได้โทรศัพท์มาบอก แต่ไม่ได้รับสายเพราะหลับอยู่ จนลูกสาวคนโตโทรมาบอกว่าแม่ เอส เอ็ม โดนไฟครอกเสียชีวิตคากุฏิพระเมื่อคืนนี้ รู้สึกช็อคทำอะไรไม่ถูกเสียใจมาก ส่วนเรื่องศพลูกชายทั้ง 2 คนก็ต้องถาม

ญาติ ๆ ที่เลี้ยงลูกว่าจะเอาศพไปทำพิธีที่วัดไหน ตอนนี้ตนตัดสินใจอะไรยังไม่ได้