"คดีมาตรา 112: ลูกเกด ชลธิชา ได้รับโทษจำคุก 2 ปี แต่ไม่รอลงอาญา"

"ลูกเกด ชลธิชา สส.ก้าวไกล คดีมาตรา 112: ลดโทษจาก 3 ปี เหลือ 2 ปี ไม่รอลงอาญา"

ในวันที่ 27 พฤษภาคม ปี 2567 นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลพร้อมกับ นายชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี เขต 3 ของพรรคก้าวไกล ต้องเดินทางมายื่นตัวที่ศาลจังหวัดธัญบุรี อยู่ที่ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี

เพื่อเข้าฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อ1971256 ในห้องพิจารณาคดีที่ 9 ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีที่นายชลธิชาถูกกล่าวหาตามมาตรา 112 ของกฎหมายอาญา

คดีนี้ได้เกิดจากการชุมนุมที่เกิดขึ้นหน้าศาลจังหวัดธัญบุรีเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2564 เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมือง ทั้งนี้ มีผู้เลือกตั้งจำนวน 10 คน

ที่ถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนพระราชบัญญัติฉุกเฉินและใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ยังมีการกล่าวหานายชลธิชาตามมาตรา 112 ของกฎหมายอาญา

เนื่องจากคำปราศรัยของเขาเกี่ยวข้องกับการออกพระราชบัญญัติระเบียบราชการในพระองค์ 2560 และการใช้อำนาจตามพระราชอัธยาศัยโดยไม่ได้รับอนุญาต

หลังจากการพิจารณาคดีที่ศาลจังหวัดธัญบุรีตัดสินใจให้ลูกเกดชลธิชาต้องจำคุก 3 ปี แต่ลดโทษให้เหลือ 2 ปีและไม่ต้องรอลงอาญา นายชลธิชาได้ประกาศผ่านทางเฟซบุ๊กด้านส่วนตัวของเขาว่าได้รับการพิพากษาคดี 112

ให้จำคุก 2 ปีและไม่ต้องรอลงอาญา ในขณะเดียวกัน นายปิยรัฐ จงเทพ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกรุงเทพมหานคร จากพรรคก้าวไกล ได้ทวีตข้อความยืนยันว่าศาลจังหวัดธัญบุรีได้สั่งให้ลูกเกดชลธิชาจำคุก 3 ปี แต่ลดโทษให้เหลือ 2 ปี แล

คดีนี้มีจำเลยทั้งสิ้น 10 ราย นอกจากชลธิชา (จำเลยที่ 1) ยังมี พริม มณีโชติ (จำเลยที่ 2), ศรีไพร นนทรีย์ (จำเลยที่ 3), สุนี ไชยรส (จำเลยที่ 4),

ธนพร วิจันทร์ (จำเลยที่ 5), วิปัศยา อยู่พูล (จำเลยที่ 6), สุธิลา ลืนคำ (จำเลยที่ 7), วิศรุต สมงาม (จำเลยที่ 8 ), ไพศาล จันปาน (จำเลยที่ 9) และ อาทร โพดภูธร (จำเลยที่ 10)

ทั้ง 10 คน ถูกฟ้องเฉพาะข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, คำสั่งจังหวัดปทุมธานี เรื่องมาตรการป้องกันโควิด และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต