เบลล่า ราณี แคมเปน รับรางวัลเกียรติยศความสำเร็จ หลัง 14 ปี ของการอดทนและความพยายามความมุ่งมั่นเป็นสิ่งสำคัญ!

เบลล่า ราณี แคมเปน ประสบการณ์ 14 ปี ของความอดทนและความมุ่งมั่น เบลล่า ราณี แคมเปน นักแสดงที่ได้รับการยกย่องด้านความสามารถและความมุ่งมั่น จากเวทีประกาศรางวัลคมชัดลึก

อวอร์ด ครั้งที่ 20 ที่จัดขึ้นที่ TRUE ICON HALL ชั้น 7 ICONSIAM กล่าวถึงประสบการณ์ที่ยาวนานของเธอในวงการบันเทิงไทย เริ่มต้นจากการต้องเดินทางจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต มาที่ช่อง 3

โดยต้องนั่งรถตู้เป็นเวลาหลายวันต่อสัปดาห์ เพื่อเรียนรู้และรอโอกาสในวงการนี้ แม้ว่าตอนแรกจะไม่ได้รับบทเป็นนางเอก แต่เบลล่า ราณี แคมเปน ไม่ยอมสิ้นสุดที่นั้น

เธอมุ่งมั่นที่จะแสดงความสามารถของเธอให้ทุกคนได้เห็น ผ่านการรับบทต่างๆ เช่น นางร้ายในเรื่องรอยมาร และบทนางรองในเรื่องตะวันยอดรัก จนกระทั่งเบลล่า ราณี แคมเปน

ได้มีโอกาสเป็นนางเอกในละครต่างๆ เช่น พรพรหมอลเวง และ สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จของเธอในวงการนี้ ผ่านประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความพยายามและความอดทน เบลล่า ราณี แคมเปน

ได้มีโอกาสรับบทในละครต่างๆ ซึ่งได้รับความนิยมและเป็นที่สนใจจากผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นละครดราม่าเข้มข้นหรือภาพยนตร์ เนื่องจากความพยายามและความมุ่งมั่นของเธอที่ไม่มีที่สิ้นสุด เบลล่า ราณี แคมเปน

ได้รับการยอมรับและความเชื่อมั่นจากผู้จัดการและผู้ชมในวงการ ซึ่งนำเธอสู่ความสำเร็จที่เธอมีในปัจจุบัน

เพื่อเริ่มต้นการสัมภาษณ์นี้ เบลล่า ราณี แคมเปน มอบสปีชทัชใจที่เต็มไปด้วยความยินดีและความปรารถนาจากใจของเธอ:

"รางวัลนี้เป็นเกียรติในชีวิตของนักแสดงคนนึงมากจริงๆ" เธอเริ่มต้นตามเรื่องราวด้วยการบอกว่าชีวิตในวงการบันเทิงไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปด้วยความสะดวกสบาย

แต่มีทั้งความท้าทายและความกลัว ในการเปรียบเทียบตัวเองกับม้าแข่งที่ต้องลุ้นทุกสนาม และต้องพร้อมที่จะแสดงฝีมือของตนให้คนทั้งหลายได้เห็น

เริ่มต้นตั้งแต่วันแรกที่เบลล่า ราณี แคมเปน เข้าสู่ช่อง 3 ซึ่งเป็นช่องโทรทัศน์ชั้นนำในประเทศ นั้นเป็นการท้าทายที่ต้องนั่งรถตู้มาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต มายังสถานที่เชื่อมต่อเข้ากับวงการนี้ และเป็นเวลาหลายวันต่อสัปดาห์ เพื่อเรียนรู้และรอโอกาสในวงการนี้

แม้ว่าเริ่มต้นจากบทบาทของนางร้ายในละคร "รอยมาร" ในปี 54 และก้าวขึ้นเป็นบทนางรองในละครต่างๆ เช่น "ตะวันยอดรัก" และ "พรพรหมอลเวง" ความมุ่งมั่นของเธอต่อการเป็นนักแสดงที่เต็มไปด้วยความอดทนแล

จากนั้นก็มีผู้จัดหลายๆ คนให้โอกาสเบลเรื่อยมา ลูกทาส เพลิงฉิมพลี ภพรัก ปดิวรัดา วิมารเมขลา และ เพลิงบุญ ที่เป็นละครดรามาเข้มข้น ซึ่งในปีนั้นเรื่องนี้ได้เรตติ้งอันดับ 1 ของช่อง 3 เรื่องนี้เบลถ่ายพร้อมกับบุพเพสันนิวาส ซึ่งได้มาออนปี 61 ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเบลเลย ที่เบลได้มาเป็นออเจ้าของทุกคนในวันนี้

จากนั้นก็มี ปี่แก้วนางหงส์ กรงกรรม ร้อยเล่ห์มารยา พรหมลิขิต และกำลังจะเปิดกล้อง เจ้าคุณพี่กับอีนางคำดวง หรือแม้แต่งานภาพยนตร์ เบลก็ไม่ได้เริ่มต้นที่บทนำเลย พอได้เป็นบทนำ เรื่องนั้นก็ไม่ได้ฉาย จนมาเป็นอีเรียมซิ่ง บุพเพสันนิวาส 2 ที่ทุกคนเห็นว่าประสบความสำเร็จ

ที่เบลเท้าความมาทั้งหมด อาชีพของเบล ไม่ได้แตกต่างจากทุกคนเลย มันไม่ได้มีแต่ความสวยงาม มันมีทั้งความผิดหวัง ความพยายาม การฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่า มีคำดูถูก มีคำวิจารณ์ มีการอดทนรอ ซึ่งตั้งแต่ที่เบลได้เป็นเด็กฝึกช่อง 3 จนมาถึงวันที่บุพเพสันนิวาสออนแอร์ เบลใช้เวลา 8 ปี จากตั้งแต่วันแรกที่ได้มาเป็น

อาชีพนักแสดง เบล ใช้เวลากว่าจะมีวันนี้ เป็น เบลล่า ราณีคนนี้ เบลใช้เวลาทั้งหมด 14 ปี เบลไม่ต่างจากทุกๆ คนเลย

คนเราไม่ได้สำเร็จตั้งแต่ก้าวแรก แต่บางทีมันอาจจะสำเร็จบนความพยายามครั้งที่ 100 ด้วยซ้ำ บางครั้งความพยายามอย่างเดียวยังไม่พอ ต้องมีโชคด้วย แต่เบลเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจ ถ้าเรามุ่งมั่น และเราพร้อมอยู่เสมอ

จุดเปลี่ยนในชีวิตเราที่เข้ามา เราจะพร้อมคว้ามันทันที อย่าให้คนอื่นมาบอกว่าเราทำไม่ได้ อย่าเอาคำ

ดูถูก หรือการกลั่นแกล้งมาบั่นทอนจิตใจของเรา แต่ว่าคุณจงใช้พลังนั้นในการขับเคลื่อนตัวคุณ

แล้วถ้าวันไหนที่เราได้ลงสนามจงวิ่งให้สุดกำลังเลยค่ะ ไม่ต้องไปแข่งขันกับใคร เราแค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ในสิ่งที่ไม่มีคนมองเห็น ความตั้งใจนั้นมันจะส่องแสงออกมา แล้วมันก็จะเป็นวันของคุณค่ะ เบลขอขอบคุณผู้ใหญ่ ผู้จัดทุกท่าน ขอบคุณที่ให้ม้าตัวนี้ได้ลงสนามแข่ง ได้โชว์ฝีมือความสามารถให้ทุกคนได้เห็น

ทุกสิ่งทุกอย่างมันหล่อหลอมให้ เบล เป็น เบลล่า ราณี ในทุกวันนี้”