บราซิล'ตายเฉียด350 น้ำท่วมโคลนถล่มรุนแรง หลายพื้นที่ถูกตัดขาด มันเป็นหายนะครั้งใหญ่ ภัยพิบัติครั้งร้ายแรง

เอเอฟพี/เอเจนซี - อิทธิพลของพายุฝนที่โหมกระหน่ำภาคตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิลตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดอุทกภัยและโคลนถล่มครั้งรุนแรงในหลายพื้นที่ทางเขตหุบเขาใกล้กับนครริโอเดจาเนโรเมื่อวันอังคาร (11) และวันพุธ (12) คร่าชีวิตผู้คนไปร่วมๆ 350 รายแล้ว ขณะที่ปฏิบัติการช่วยเหลือโดยหน่วยบรรเทาทุกข์เป็นไปด้วยความลำบากเนื่องจากหลายพื้นที่ยังคงถูกตัดขาด

เมืองเซอร์รานา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตหุบเขาทางตอนเหนือของรัฐริโอเดจาเนโร ถูกฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนักตั้งแต่วันอังคาร (11) จนถึงช่วงก่อนเช้ามืดของวันพุธ (12) ด้วยปริมาณน้ำฝนมากเท่ากับที่วัดได้ 2-3 สัปดาห์ในภาวะปกติ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นและไหลทะลักท่วมอย่างรวดเร็ว ซ้ำยังทำให้เกิดแผ่นดินถล่มในหลายพื้นที่ รวมถึงพื้นที่รอบๆ เขตเทศบาลเมืองโนวา ฟริเบอร์โก, เตเรโซ

โปลิส และเปโตรโปลิส ผลกระทบจากภัยธรรมชาติคราวนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 348ราย โดยที่ตัวเลขดังกล่าวยังไม่รวมผู้เสียชีวิต 13 คนในเมืองเซาเปาลูก่อนหน้านี้จากอิทธิพลของพายุลูกเดียวกันนี้

เจ้าหน้าที่แดนกาแฟระบุว่ามหันตภัยคราวนี้เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมืองเซอร์รานา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของชาวริโอฯ ในช่วงหน้าร้อนของซีกโลกใต้เวลานี้

“มันเป็นหายนะครั้งใหญ่ ภัยพิบัติครั้งร้ายแรง” จอร์เก มาริโอ นายกเทศมนตรีเตเรโซโปลิส ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยระลอกนี้มากที่สุด กล่าวกับสถานีโทรทัศน์โกลโบนิวส์ ทั้งนี้เมืองของเขามีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 146 ราย และมีประชาชนราว 500 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ขณะเดียวกัน สะพานหลายสิบแห่งและถนนหลายสายภายในเมืองที่มีประชากร 180,000 คนแห่งนี้ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

ส่วนเขตเทศบาลเมืองโนวา ฟริเบอร์โก ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของตัวนครริโอเดจาเนโร 140 กิโลเมตร มีผู้เสียชิวิตแล้วมากถึง 155 ราย

ขณะที่เมืองเปโตรโปลิสในรัฐเดียวกัน มีรายงานของผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 34 ราย โดยส่วนใหญ่อยู่ในตำบลอิไตปาวาซึ่งตั้งอยู่ในละแวกใกล้เคียง ส่วนเจ้าหน้าที่หลายคนก็เตือนว่า ยอดผู้เสียชีวิตในพื้นที่แห่งนี้อาจพุ่งสูงขึ้นอีกทันทีที่เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์สามารถเข้าถึงเขตหมู่บ้านที่อยู่ลึกเข้าไปได้

ทั้งนี้ขอบเขตความเสียหายทั้งหมดยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดเนื่องจากช่องทางในการติดต่อสื่อสารและเข้าถึงเขตประสบภัยพิบัติทั้งหลายล้วนถูกตัดขาดหลังจากถนนหนทางและสะพานหลายแห่งถูกกระแสน้ำพัดจนพังถล่ม ขณะที่โทรศัพท์ก็ใช้การไม่ได้ในบางพื้นที่

นักอุตุนิยมวิทยาของบราซิลระบุว่า ฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างหนักคราวนี้มีสาเหตุมาจากแนวปะทะอากาศเย็นที่ไปดันมวลอากาศร้อนในฤดูร้อนชื้นให้ลอยตัวสูงขึ้น โดยที่มวลอากาศเย็นที่มีความหนาแน่นมากกว่านี้ได้ไปเพิ่มระดับความชื้นในอากาศที่มีมากอยู่แล้วให้สูงขึ้นไปอีก จนทำให้เกิดเมฆมากและพายุฝนตามมา นอกจากนี้กรมอุตุฯ ยังพยากรณ์ด้วยว่า จะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องอีกตลอดหลายวันข้างหน้านี้

ทางด้านรัฐบาลบราซิลภายใต้การนำของดิลมา รูสเซฟฟ์ ประธานาธิบดีคนใหม่ซึ่งเพิ่งรับตำแหน่งเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ได้มอบเงินช่วยเหลือฉุกเฉินแก่พื้นที่ประสบภัยเป็นมูลค่า 420 ล้านดอลลาร์ โดยที่ตัวผู้นำหญิงผู้นี้มีกำหนดจะออกเยี่ยมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้ในวันพฤหัสบดี (13)

อนึ่ง หนังสือพิมพ์เอสตาโด เด เซาเปาลู รายงานว่า ตลอดช่วงปี 2010 ที่ผ่านมา มีประชาชนเสียชีวิตจากภาวะฝนตกหนักในบราซิลอย่างน้อย 473 ราย