หนังคนละม้วน! "กันสมาย" ร่ายยาวหลังฟัง "ออกัส" ให้สัมภาษณ์ เขาพูดความจริงไม่หมด

เพื่อน "ออกัส" ซัดแหลก..พระเอกดังต่างหากถูกข่มขู่ให้กราบเท้า!!  เรียกว่ากลายเป็นหนังคนละม้วนทันที หลังจากที่หนุ่ม “ออกัส วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์” ถูกนักแสดงหนุ่ม “กันสมาย ชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์” ออกมาแฉยับเรื่องขอกินตับแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกไปได้ไม่นาน และเจ้าตัวก็รับไม่ได้กับพฤติกรรมดังกล่าว บอกด้วยว่าคนแบบนี้ไม่ควรมีที่ยืนในสังคม และในเวลาต่อมา ทางด้านหนุ่ม "ออกัส" ก็ได้ออกมายอมรับแบบแมนๆ เลยว่า แชตดังกล่าวเป็นของตนจริง แต่เป็นของเก่าเมื่อ 3 ปีที่แล้ว อีกทั้งตนก็พยายามจะขอโทษหนุ่ม "กันสมาย" แต่ก็ติดต่อไม่ได้เพราะอีกฝ่ายเล่นบล็อกทุกช่องทาง

ล่าสุด มีหนุ่มรายหนึ่งที่อ้างว่าเป็นเพื่อนของออกัส ได้ออกมาจุดประเด็นดราม่าให้ร้อนระอุขึ้นไปอีก โดยออกมายืนยันว่า ทางออกัสต่างหากที่ถูกข่มขู่ให้กราบเท้า ตอนนี้รู้สึกสงสารเพื่อนมาก หากเพื่อนผิดจริง ตนนี่แหละจะตบให้หัวทิ่ม ทั้งนี้หนุ่มรายดังกล่าว ก็ได้ออกมาระบุข้อความด้วยว่า  “ข่าวเรื่องที่ออก กับเรื่องจริงมัน คนละเรื่องอะ ข่าวที่ออกคือเรื่องเก่าหลายปี มาแล้วทางโน้นต่างหากขู่มึงไปกราบตีนไอ้กัส กูอยู่กับมึง 24 ชม.ฝ่ายหญิงเขามาขออยู่โต๊ะ มึงยังถามกูเลยว่าให้อยู่ได้ไหม กูก็ถามว่าใคร มึงบอกแฟนเพื่อน กูก็เออแฟนเพื่อนให้อยู่ได้ ชิล แต่สุดท้าย ข่าวที่ออกกับเรื่องที่เกิด คนละเรื่องคนละปี สู้ๆ ไอ้กัส สงสารมึงจริง

ปล.นี้ถ้ากูมีกล้องที่หัวกูเอามาเปิดให้ดูละว่าไรเป็นอะไร ไม่ได้ปกป้องเพื่อนนะครับ แต่เพื่อนไม่ผิดจริงๆ

ดูท่าจะไม่จบง่ายๆ หลังนักแสดงหนุ่ม "กันสมาย ชนกันต์ " ได้ออกมาปล่อยแชตที่พูดคุยกับนักแสดงหนุ่ม "ออกัส วชิรวิชญ์" และได้กล่าวอ้างถึงพฤติกรรมแย่ๆ จนเกิดเสียงวิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียล จากนั้น "ออกัส" ได้ออกมาโพสต์ผ่านไอจีสตอรี่ ยอมรับแชตส่วนตัวที่ถูกเปิดเผยออกมาเป็นของตนเองจริงเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ที่ผ่านมาพยายามจะขอโทษ "กันสมาย" แต่ไม่สามารถติดต่อได้เพราะโดนบล็อกทุกช่องทาง นอกจากนี้ "ออกัส วชิรวิชญ์" ยังออกมาเปิดใจเคลียร์อีกรอบว่า ตนเองยืนยันไม่ได้ทำพฤติกรรมแบบที่อดีตเพื่อนโพสต์ ก่อนแฉกลับถูกอีกฝ่ายขู่ให้กราบเท้า ยันไม่เคยมีซัมติงกับแฟนเพื่อน ฝ่ายหญิงเข้ามาหาที่โต๊ะช่วงสงกรานต์ ไม่เคยขอไลน์ - ไอจี ไม่รู้ฝ่ายหญิงไปบอกอะไรจนอาจทำให้เข้าใจผิด พ้อได้รับผลกระทบกับงาน ทั้งถูกยกเลิกและเลื่อนงาน

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ "ออกัส" ให้สัมภาษณ์เสร็จ ด้าน "กันสมาย" ก็โพสต์สตอรี่ไอจีว่า “วงการบันเทิงอะเนอะ” แถมล่าสุด "กันสมาย" ได้ออกมาโพสต์ข้อความร่ายยาว หลังฟัง "ออกัส" ให้สัมภาษณ์บอกเขาพูดความจริงไม่หมด "จริงๆผมตั้งใจจะจบแล้วถ้าเขาไม่ออกมาพูดอีก ที่เขาบอกว่าเขาขอโทษแล้ว ทําไมผมถึงไม่รับคําขอโทษ? เพราะหลังจากที่ขอโทษไม่กี่นาที หลังจากที่ผมบล็อกเขา เขาให้เพื่อนเขาพยามยามโทรมาหาผมจริงตามข่าว แต่สิ่งที่เขาฝากมาบอกคือ 'เรื่องผู้หญิง ผู้ชายเขาไม่ทะเลาะกันหรอก กูไม่ได้จะจีบจริงๆ กูแค่อยาก...'ถ้าเป็นคุณ คุณจะยังให้อภัยคนแบบนี้ไหม? แต่ถ้าเป็นผม ผมไม่ให้" ผมเลิกกับแฟนด้วยดี และยังเป็นเพื่อนกัน แล้วมีเพื่อนมาพูดจาแบบนี้ในวันที่ผมเจ็บปวดมากที่สุด คุณจะรับคําขอโทษไหม? *ยืนยันว่านี่ไม่ใช่การพูดเล่น และผมมั่นใจว่าไม่เคยพูดจาทํานองนี้กับเขา แล้วตัวผมเองไม่ใช่คนที่พูดเล่นกับเพื่อนแบบนั้นแน่นอน และ 1 ปีถัดไป เขายังกลับไปทักแฟนเก่าผมอยู่เหมือนเดิม โดยที่แฟนเก่าของผมไม่เคยรับรู้เจตนาของเขาที่เข้าหาเลย" "เรื่องนี้เกิดมา 3-4 ปี จริงครับ ถามว่าทําไมเพิ่งแฉในเมื่อเรื่องมัน 3-4 ปี มาแล้ว ? จริงๆ ผมก็อยากแฉตั้งแต่วันนั้นแหละครับ แต่ผมโตพอที่ผมจะไม่ทําเรื่องใหญ่ในวันที่ผมมีสังกัด และทำให้คนในสังกัดเดือดร้อน วันนี้ผมอยู่ด้วยตัวเองแล้ว และเขายังทําพฤติกรรมเหมือนเดิม และไม่ใช่แค่กับผมคนเดียว พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทั้งในและนอกวงการ รวมถึงเพื่อนของเขาเองก็ต่างโดนกระทําเช่นเดียวกัน และทักมาหาผมเป็นจํานวนมาก และผมรับรู้มาโดยตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา ผมเลยรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ผมไม่ไว้ใจ ไม่อยากให้เขามายุ่งกับ 'เพื่อน พี่น้อง หรือ แฟน' ของผมเด็ดขาด และผมขอบอกแบบแมนๆ เลยละกันนะครับ เขาไม่พูดความจริงทั้งหมดในวันที่สัมภาษณ์" "เพื่อนเขาเองไม่ผิดครับที่มาปกป้องเพื่อนเขา ถ้าเพื่อนเขาอยากรู้ความจริงทักมาได้ครับ เดี๋ยวส่งให้ดูส่วนตัวว่าเพื่อนตัวเองไปทําอะไรมาบ้าง ผมมีหลักฐานของตัวผมเอง และจากที่คนอื่นๆ ส่งมาให้ สิ่งที่เขาพูดแย่ๆ มากกว่านี้ แต่ผมไม่ต้องการจะเปิดเผยออกสื่อ เพราะมันมีเรื่องของบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมแมนพอที่จะไม่เอาบุคคลที่สามมาเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น" "ถ้าอยากชนะผมเอาเลยครับ ผมยอมแพ้ก็ได้ครับ อย่างน้อยผมก็ทําหน้าที่แทนคนอื่นเขาแล้ว ที่คนอื่นเขาไม่กล้าทํา และที่ผมพูดว่าให้ 'กราบตีน' เป็นความจริงครับ ผมขอโทษในส่วนนี้ถ้าใครคิดว่ามันแรงเกินไป และทําให้เสียความรู้สึก และจะเก็บไว้เป็นบทเรียน ผมทําหน้าที่ของผมเรียบร้อยแล้ว ในการรักษา ปกป้องคนที่ผมรัก ให้ห่างไกลจากคนแบบนี้ ใครทําอะไรย่อมรู้อยู่แก่ใจตัวเองมากที่สุด' สักวันนึงนํ้ามันจะลดแล้วตอจะผุดขึ้นมาเอง"