แก้มบุ๋ม ว่าที่สะใภ้หมื่นล้าน ควงพ่อแม่เผยสาเหตุไม่เรียกสินสอดสักบาท - หลงลูกเขยสุด ๆ

เตรียมตัวสละโสดแล้ว สำหรับ แก้มบุ๋ม ปรียาดา นางร้ายหน้าสวย ว่าที่สะใภ้หมื่นล้าน วันนี้ควง คุณแม่ลี ศริญญา และ คุณพ่อเจน ไชยกร

มาเผยฤกษ์แต่งงานที่แรก เปิดสาเหตุพ่อแม่ประกาศชัดไม่เอาเงินสินสอดสักบาท พร้อมอัปเดตเรือนหอมูลค่ากว่า 100 ล้าน

ที่พีท กันตพร สร้างให้ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่อง One 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

 

 

ว่าที่สะใภ้หมื่นล้าน ?


          แก้มบุ๋ม : ถูกไหมแม่ (แม่บอกไม่รู้) นิดหนึ่ง (หัวเราะ) ก็ต้องเป็นหนู แล้วจะเป็นใครล่ะ ถ้าไม่ใช่หนู

ได้ฤกษ์แล้ว ?
 

          แก้มบุ๋ม : 12 พฤษภาคม ปีหน้าค่ะ หมั้นและแต่ง 12 พฤษภาคม 2567
 

ตอนแรกลังเลอยู่ 2 วัน ?
 

          แก้มบุ๋ม : หนูไม่อยาก 2 วันไง หนูเหนื่อย (หัวเราะ)
 

พ่อโอเคไหม ?
 

          พ่อเจน : ทีแรกก็คุยกันว่าวันที่ 12 ก็ดี 19 ก็ดี เลือกเอาวันใดวันหนึ่ง เช้าหมั้นแล้วก็แต่งเลย

          ให้ยุ่งวันเดียวจบเลย แต่ลูกสาวบอกเหนื่อย ถ้า 12 ปีหน้ากับ 19 ก็ต้องเอาวันที่ดีที่สุด

 

แม่เห็นด้วยไหม ?
 

          แม่ลี : แล้วแต่เขาสองคน เพราะเขาเป็นคนที่เหนื่อย การที่เขาเป็นคนที่เหนื่อย เขาก็ต้องคิดเอง ส่วนแม่ยังไงก็ได้
 

          แก้มบุ๋ม : แม่เตรียมตัวเยอะกว่าเจ้าสาวอีกนะ
 

          แม่ลี : ใช่ ธรรมชาติอยู่แล้ว สวยกว่าเจ้าสาวไหม ไม่รู้เนอะ (หัวเราะ)

ธีมอะไร ?
 

          แก้มบุ๋ม : จริง ๆ ในสมองหนูไม่เคยคิดไว้เลยค่ะ ว่าต้องแต่งงาน ธีมต้องใส่ชุดเจ้าสาว ต้องยังไง ไม่มีเลย

          แต่ถ้าให้คิดตอนนี้ ก็ขอเรียบ ๆ ดอกไม้ไม่เยอะพอ ชุดเจ้าสาวชุดเดียวนี่แหละพอแล้ว เช้าหมั้นกับกลางคืนชุดเดียวกัน

          ดอกไม้ให้น้อยที่สุดเพราะสงสารดอกไม้ (หัวเราะ) ใช้แค่แป๊บเดียวก็ทิ้ง เอาตังค์มาให้หนูดีกว่า ไม่ต้องจ่ายอย่างนั้นหรอก เครื่องดื่มก็ไม่เน้น ไม่มีใครดื่มสักคน

 

สถานที่แต่งงาน ?
 

          แก้มบุ๋ม : ไม่รู้ ให้พี่พีทคิด
 

ทำไมชุดแต่งงานต้องจากร้าน บี มาติกา ?
 

          แก้มบุ๋ม : เพราะว่าพี่บี มาติกา เป็นคนทำให้รู้จักกัน แล้วพี่บีทำชุดแต่งงาน ร้านชุดแต่งงานอยู่แล้ว

          ก็คิดว่าเหมาะ อย่างน้อยเป็นความรู้สึก เป็นคุณค่าทางใจ อันนี้เฉพาะชุดเจ้าสาว ส่วนชุดเจ้าบ่าวพี่พีทเขาเตรียมไว้อยู่แล้ว

 

ดูเป็นคนง่าย ๆ อะไรก็ได้ ?
 

          แก้มบุ๋ม : ใช่ คนที่อะไรไม่ได้เป็นพี่พีทมากกว่า เขาเลือกหมด แม้แต่พระต้องดูว่าเป็นแบบไหน ดูฤกษ์ ชุดเขาก็เตรียมไว้หมดแล้ว หนูไม่ต้องคิดอะไรเลย

         เพราะจะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน เพราะเราไม่มีความต้องการอยากได้อะไรเป็นพิเศษ ถ้าเราอยากได้อะไรเราก็บอกเขา เขาพร้อมเติมให้เราอยู่แล้ว

 

 

 

แขกกี่คน ?
 

          แก้มบุ๋ม : น่าจะเป็นพัน ไม่รู้เท่าไหร่ค่ะ
 

แขกฝั่งเรา พ่อแม่ชวนมากี่คน ?
 

          พ่อเจน : กำลังลิสต์รายชื่ออยู่ ยังตอบไม่ได้
 

          แม่ลี : เยอะมาก
 

          แก้มบุ๋ม : แม่นี่น่าจะทั่วประเทศไทย เหนือจรดใต้
 

          แม่ลี : เบา ๆ ก็ได้ลูก แต่เน้นจังหวัด 3 คนต้องเบา ๆ ซีน จะแย่งมากก็ไม่ดี ยังไม่โดนลูกห้ามเพราะยังไม่ถึงเวลา
 

งบไม่อั้น จริงไหม ?

         

แก้มบุ๋ม : มั้งคะ
 

          พ่อเจน : น่าจะจริง
 

          แม่ลี : เอาใจทุกคนเนอะ
 

          แก้มบุ๋ม : วันนี้ 18 จะคุยกันจริง ๆ วันที่ 24 จะปรึกษากันอีกรอบ เพราะตั้งแต่ขอมายังไม่ได้เจอกันเลย ยังไม่มีบทสรุปที่แน่นอน
 

ตอนนี้ยังไม่พร้อมเหรอ ต้องผ่านคอร์สเจ้าสาวหรือเปล่า ?
 

          แก้มบุ๋ม : ไม่ค่ะ หนูแต่งตอนนี้เลยก็ได้ หน้าผมหนูพร้อมมาก จริง ๆ อาจมีแค่น้ำหนักนิดหน่อยที่ค่อยลงไปนิดหนึ่ง

         แต่ถ้าถามหนูอาจไม่ได้เตรียมตัวอะไรเพิ่มเยอะ อาจไม่ได้อัปเลเวลหน้าเพิ่มเหมือนแม่
 

          แม่ลี : โอ๊ย ตอนนี้ก็ธรรมชาติแล้วลูก ไม่รู้จะอัดอะไรดี (หัวเราะ)

 

 

แม่เตรียมตัวงานแต่งลูกยังไงบ้าง ?
 

          แม่ลี : ไม่ต้องเข้าคอร์ส เพราะเราดูแลตัวเองอยู่แล้ว พร้อมไปทุกงาน เราดูแลตัวเอง งานไหนมาไม่ต้องใช้เวลา ทุกวินาที
 

          แก้มบุ๋ม : เริดตลอด
 

พ่อพร้อมไหม ?
 

          พ่อเจน : พร้อม เป็นพรุ่งนี้ขึ้นใส่สูทก็ได้เลย
 

ทำไมพ่อแม่ไม่เรียกสินสอดสักบาท ?
 

          พ่อเจน : ให้เขาดูแลลูกสาวต่อจากพ่อแม่ไปอย่างมีความสุข ให้สิ่งที่ดีกับเขา เราก็สบายใจแล้ว

          อายุเราก็เยอะแล้ว จะเอาเงินไปทำอะไร ให้เขาไปดีกว่า เท่าไหร่ก็ให้เขาหมด
 

แม่คิดเหมือนกันไหม ?

          

           แม่ลี : สำหรับแม่ เราเป็นคนชอบหาเงินและสอนลูกด้วย เราเก็บเงินไว้เพื่อเขาทั้งหมด แต่ถ้าวันหนึ่งเขามีคนที่ดูแลได้ดีมากกว่าเรา

           แล้วเงินที่มันเข้ามาหาเราก็คือของเรา เราก็จะไม่เก็บไว้ พร้อมทั้งของเราด้วย เพราะเราทำมาเพื่อคนที่เรารักก็คือลูก

           ก็บอกทุกคนนะคะว่าเราสร้างมาแล้ว เราจะไม่เป็นภาระให้เขา เราคือคนที่ต้องให้เขา
 

          แก้มบุ๋ม : ได้ยินแบบนี้ก็ชินค่ะ นี่คือสิ่งที่โอเคแล้ว พอเป็นแบบนี้เรารู้สึกสบายใจ ใช้ชีวิตอะไรก็ได้ที่เราสบายใจ

         

          แม่ลี : ถ้าลูกเหนื่อยแล้วเราไปเอาเงินเขาหมด เขาจะไม่มีแรงในการทำงาน เราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตให้การทำงานและเป้าหมายให้มีความสุข

          ไม่ทำให้คนข้าง ๆ เดือดร้อน นี่เราไม่ได้เตี๊ยมกันนะ เราพูดแต่ละคำ มาจากตัวของเราและเป็นความจริง ไม่งั้นลูกจะไม่มีแรงทำแบบนี้

          เขาทำงานได้ทั้งหมดเขาเก็บแล้วเอาไปใช้ในสิ่งที่เขาชอบ เหมือนเราเวลาเราดูแลใคร เราก็ไม่ชอบอันไหน เราอย่าทำอย่างนั้น เงินทุกคนเสียดายหมด แต่เราไม่เอาเงินใคร
 

เรือนหอ เห็นว่ามูลค่ามากกว่า 100 ล้าน จริงไหม ?
 

          แก้มบุ๋ม : หนูว่ามีสิทธิ์ไปถึง ด้วยฟังก์ชันต่าง ๆ ที่เราแต่ละคนอยากได้ ก็มีสิทธิ์ เรือนหออยู่พุทธมณฑล สาย 2 ที่ไร่ครึ่ง อยู่ในหมู่บ้านของพี่พีท

          แต่เป็นอีกที่หนึ่ง เราเป็นคนบ้าของเล่นกันมาก อย่างพวกโมเดลต่าง ๆ จะมีเยอะมาก โดยเฉพาะพี่พีทโมเดลใหญ่หรือตัวเท่าคนมีเยอะมาก

          เขาชอบมาร์เวล นี่ไม่รวมถึงการตกแต่ง นี่แค่โครงบ้านต่าง ๆ ต้องล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ยังไงให้ดูสวย ให้เหมือนอยู่ในแบบ

          เขาต้องมีห้องดูหนังของเขา ห้องเล่นเกม หนูก็ต้องมีห้องเก็บของเล่นหนู มีตึกไลฟ์ 2 ชั้นอยู่ที่นั่นเลย ครบวงจร แพ็กของได้ในนั้น

          มีห้องเลี้ยงหมาหนู ห้องพี่เลี้ยงหนู หรือตอนนี้อยากได้โต๊ะสนุกเกอร์เข้าบ้านอีก ก็หาที่วางโต๊ะสนุกเกอร์เพิ่ม บ้านต้องมีลิฟต์ เดี๋ยวขนของขึ้นไม่ได้อีก

          ตอนแรกบอกว่าบ้านเราไม่เอาสระว่ายน้ำดีกว่าเนอะ เดี๋ยวไม่ได้ใช้ เพราะที่บ้านเขามีอยู่แล้ว หนูตอนแรกก็ไม่เอา

          แต่สักพักบอกว่าพี่พีท ชีวิตหนูไม่เคยมีบ้านมีสระว่ายน้ำเลยนะ ผู้ชายก็บอกว่าโอเค ได้ (หัวเราะ) ก็เล็ก ๆ ไม่ใหญ่

          พ่อเจน : สาเหตุที่บ้านเสร็จไม่ทันเพราะแบบนี้แหละ แก้ไขไปเรื่อย

         แก้มบุ๋ม : ห้องคุณพ่อคุณแม่ก็มีด้วยค่ะ แต่ไม่รู้เขาไปนอนหรือเปล่า

        

ม่ลี : ไม่ได้หรอกค่ะ
 

          แก้มบุ๋ม : เขาไม่ไปอยู่หรอก พ่อหวงบ้านมาก ส่วนแม่อยู่ไม่ติดบ้าน ฉะนั้นยาก
 

          พ่อเจน : ผมไม่อยากออกไปไหนในรัศมี 3-4 กิโลเมตร (หัวเราะ)
 

แม่ไม่ติดบ้านยังไง ?
 

          แก้มบุ๋ม : แม่เขาไม่เคยอยู่บ้านอยู่แล้ว กลางคืนเขาไปหมด ทองหล่อ สุขุมวิท เอกมัย ไปร่อนตั้งแต่เหนือจรดใต้

         บางช่วงไปพัทยาก็มี คืนหนึ่งไม่ได้ไปแค่ที่เดียว ไป 2-3 ที่ และไปไม่เคยเสียเงินเลยสักอย่าง

          แม่ลี : อย่าไปบอกเขา เดี๋ยวผับเขาจะว่าเอา

 

         

 

แม่ไปผับเหรอ ?
 

          แม่ลี : ไปทุกที่ค่ะ
 

          แก้มบุ๋ม : แล้วไม่เช้าไม่กลับ
 

          แม่ลี : เธอ กลางคืนตามันมองไม่เห็น กลับ 6 โมงรอพระบิณฑบาตเนี่ย (หัวเราะ) บางทีกลับเช้า 6 โมง แม่ไม่ง่วง

          บางทีก็นั่งเมาท์มอย เราเจอคนในที่เที่ยว เด็กตั้งแต่ 19 จนถึงรุ่นเรา เรารู้สึกได้ความรู้เยอะแยะ เราไม่มีภาระต้องเลี้ยงลูกแล้ว เราไม่เคยเที่ยวตั้งแต่เด็ก นั่นคือการเที่ยวที่ไปเช็กดู
 

แม่ไปเดี่ยวหรือไปหาเพื่อนเอา ?
 

          แม่ลี : หาเพื่อนก็ได้ วันไหนเหงาก็โทร. ทุกที่ ทุกที่ก็เตรียมพร้อมยืนรอเรา เพื่อนเราอายุ 27
 

          แก้มบุ๋ม : เด็กกว่าหนูอีก
 

          แม่ลี : เรียกว่าเธอ คุณเพื่อน มีความสุข แต่งตัวไซซ์เท่ากัน แล้วจะไปเที่ยวกับคนอายุเท่ากันทำไมล่ะ เดี๋ยวเขาก็ร้องไห้อยากกลับบ้านแล้ว ข้อเข่าก็ปวดเนอะ นี่ไม่มีปวดเลย
 

แม่กลับ 6 โมงเช้า พ่อไม่ว่าเหรอ ?
 

          พ่อเจน : ไม่ว่าครับ เราเคยคุยกันไว้ว่าตอนสาว ๆ เขาไม่ได้เที่ยว ตอนนี้เขาสาวเหลือน้อย (หัวเราะ) ผมแต่งงานตอนเขาอายุ 19 หรือ 20

          แต่งงานเสร็จก็อยู่เป็นแม่ศรีเรือนที่บ้าน ช่วยทำมาหากิน จนตอนนี้ทุกคนโต ทำมาหากินได้หมดแล้ว เขาบอกว่าขอมีเพื่อนมีฝูงไปเที่ยวบ้างนะ

          ผมก็โอเค ตามสบาย อยู่บ้านก็เล่นโทรศัพท์ของผม เคยไปเที่ยวกัน ผมก็ต้องนั่งรอ ดึก ๆ ดื่น ๆ ก่อนไปบอกเที่ยงคืนกลับ ปรากฏว่าตีสามก็ยัง

          ผมก็มานอนรอในรถดีกว่า บางทีกลับตี 5 - 6 โมง ผมก็เลยไม่ไปดีกว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งเพื่อนเขาจะขายรีสอร์ตต่างจังหวัด ไปดูเสร็จ บอกว่า 5 ทุ่มกลับ ทางมันไกล เขาคุยถึงตี 3 (หัวเราะ)

          แก้มบุ๋ม : คุยอะไร
 

          แม่ลี : ถ้าคุยไม่เก่งจะมีแม่ลีวันนี้เหรอ
 

          พ่อเจน : ผมก็หลับใน เหลืออีกไม่ถึงกิโลถึงบ้านแล้ว เสียเงินตรงด่านทับช้างแล้ว หลับไปเฉย ๆ รถก็ตะแคงเบียดแบริเออร์

          เป็นรถซูเปอร์คาร์ ลงไปทั้งแถบ ผมก็ตกใจตื่น เขาก็ถามว่าทำไมหลับล่ะ โห ไม่น่าถาม (หัวเราะ) แต่คนไม่เป็นไรเลย รถตั้งแต่หัวยันท้ายชนแบริเออร์

          เสียค่าซ่อมไป 7 แสน ถ้าหลุดจากแบริเออร์ไปเจอคอสะพาน นั่นแหละจะเละ
 

          แม่ลี : ตอนหลังเลยไม่เอาไปไง
 

          พ่อเจน : ผมไม่ไปดีกว่า ไปเลยคนเดียวจะกลับหรือไม่กลับก็ไปเลย แล้วเมื่อกี้เอารถทิ่มเข้าไปเป็นรถสปอร์ตเกยไปที่เขากั้น
 

          แม่ลี : หูย เสยแค่นั้นดีแล้ว ไม่เสยด้านข้าง

 

ไปเที่ยวมากลับกี่โมง ?
 

          แม่ลี : เยอะเหมือนกัน แล้วตื่น 6 โมง แต่ไปงานหนึ่งมาเรียบร้อย คนแฮปปี้ มางานนี้ เย็นก็เที่ยว พรุ่งนี้เช้าก็มีงานอีกแล้ว

         วันอาทิตย์มีที่เที่ยวเยอะแยะ แถวทองหล่อ เป็นร้านประจำ ฝรั่งเรียกลิลลี่ คนไทยเรียกแม่ลี (หัวเราะ) อาชีพคือเที่ยว

         สโลแกนคือกลางคืนเที่ยว กลางวันทำงาน ชีวิตมีความสุข อยากหลับตอนไหนก็จอดตรงนั้นเลย ตรงปั๊มน้ำมัน อยากนอนตอนเที่ยงก็จอดตรงนั้นเลย เปิดกระจกนิดหนึ่ง จะไม่ตายในรถเด็ดขาด

 

ต้องมีช่วงหนึ่งที่พ่อเคยโทร. ตามแม่ ?
 

          พ่อเจน : เคย ถามว่ากลับหรือยัง เขาบอกกลับแล้ว ถึงไหน ถึงหน้าหมู่บ้านแล้ว รอเป็นชั่วโมง หน้าหมู่บ้านก็ยังไม่ถึง

          บางทีเขาใช้รถเปลือง ใช้คนเดียว 4 คันนะ แล้วแต่วันนี้ไปไหน แล้วแต่ละวันที่กลับมามีแผลมาทุกวัน
 

          แก้มบุ๋ม : ไม่ใช่มีแผลอย่างเดียวค่ะ จอดในบ้านคนอื่นไม่ต้องจอดค่ะ
 

          แม่ลี : เรามีใบขับขี่ตลอดชีพค่ะลูก
 

          แก้มบุ๋ม : ซื้อค่ะ
 

          แม่ลี : อุ๊ย ซื้อที่ไหน (หัวเราะ)
 

สมัยก่อนพ่อโทร. ตามแม่ แต่ตอนนี้พ่อโทร. ตามลูก ?
 

          พ่อเจน : ผมอาจหัวโบราณนิดหนึ่ง ผู้ชายเวลาใกล้บวชเขาจะไม่ให้ลูกออกไปเที่ยวกลัวมีเหตุมีอะไร เหมือนกันลูกสาวใกล้แต่ง ก็ไม่อยากให้เขาออกไปไหน

          แก้มบุ๋ม : แต่งตั้งปีหน้ากลางปีค่ะ ปกติหนูไม่ค่อยออกอยู่แล้ว แต่วันนั้นหนูมีออกทำงานได้เจอคนใหม่ ๆ หนูขอไปนั่งในวัย 34

         แล้วไม่ใช่ร้านเย้ว ๆ ด้วยนะเป็นร้านเงียบ ๆ คุยกัน พ่อโทร. ตามหนูตั้งแต่ 5 ทุ่มครึ่งว่าอยู่ไหน จะไปไหนต่อ ทำอะไร เหมือนหนูอายุ 18 หนูบอกว่าหนูไม่ได้ทำอะไร

         หนูแค่กินข้าวเฉย ๆ เดี๋ยวก็กลับแล้ว แต่ไม่เชื่อ อีกครึ่งชั่วโมงโทร. มาบอกว่าพ่อเครียดมากนอนไม่หลับเลย กลับมาได้แล้ว หนูก็ถ่ายรูปโต๊ะบอกว่ามันไม่มีอะไร หนูกลับตี 2
 

          พ่อเจน : งอนไปวันหนึ่ง

          แก้มบุ๋ม : ขณะที่พี่พีทไม่ได้สนใจเลย เขาบอกว่าโอเค ถึงบ้านแล้วบอกแล้วกัน เขานอนแล้วนะ นอนตั้งแต่เที่ยงคืน
 

ก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้แพลนจะแต่งงาน พ่อตามไหม ?
 

          พ่อเจน : ตามตลอดอยู่แล้ว เริ่มถ่ายละคร เริ่มทำอะไรตามตลอด แต่ก่อนไปเฝ้า ไปนอนรอในรถตลอด
 

          แก้มบุ๋ม : ทุกวันนี้หนูไม่ได้ทำอะไรเลย หนูตื่นเช้าลงมาไลฟ์อยู่ข้างล่างแพ็กของกลับขึ้นไปนอนใหม่ ชีวิตวนอยู่แค่นี้ แค่ไปห้างยังไม่ไปเลย

 

 

แม่ไม่ไปรอลูกสาวบ้างเหรอ ?
 

          แม่ลี : ตั้งแต่ลูกสาวจำความได้ เหมือนไปเรียนแอ็คติ้งเองเหมือนไปเรียนโฆษณาเอง ก็ปั้นเขา บอกว่าตั้งแต่อนุบาล 1 ถึงปริญญาตรีขอดูแลเขา

         หลังจากนั้นเป็นชีวิตของหนู แม่จะไม่ดูแลหนูเลย เพราะเราต้องเริ่มให้เขารู้ว่าการมีอาชีพเป็นยังไง เดินแบบเป็นยังไง แอ็กติ้งเป็นยังไง

         พาเขาไปแคสโฆษณา 100 ครั้ง เขาไม่ได้เลย แต่ก็ยังไป แม่หมดโอกาสทุกอย่าง อันนั้นเรียกว่าเฝ้าไหม แล้วตัวเองไม่มีมงกุฎนางสาวไทย วันหนึ่งลูกฉันต้องมีมงกุฎ เดินตามทุกอย่างเพื่อให้ลูกมีวันนั้น
 

         เมื่อลูกมีทุกอย่างครบแล้ว มีชื่อเสียง มีการงาน มีมงกุฎ คุณก็ใช้ชีวิตคุณเลย ไม่มีคำว่าตาม เพราะเราสัญญา คำว่าสัญญาและสัจจะ แม่จะไม่ยุ่งกับหนู หนูคิดเอง

         เพราะเวลาที่หนูอยู่กับแม่ หนูเบื่อแย่แล้ว ตั้งแต่อายุ 10 กว่า จนวันหนึ่งหนูเป็นแก้มบุ๋มในประเทศไทย ฉะนั้นวันนี้แม่ขอเป็นแม่ลีในประเทศไทย แล้วเราไม่เอาแล้ว

         ยูทำของยูไปเลย เป็นไง ถามไปนิดเดียว แม่ตอบไปเยอะแยะ (หัวเราะ)

กับลูกเขยเป็นยังไงบ้าง ?
 

          แม่ลี : มันหายากนะ ที่คนจะเป็นแพลตฟอร์มพร้อมเข้ามาอยู่ในบ้านเรา เรื่องความรัก เรื่องความมั่นคง เรื่องหลาย ๆ อย่าง ทุกอย่าง

         ก็เป็นความโชคดีของเขา ไม่เคยหวงลูก ไม่ว่าลูกรักใคร เพราะความรักเป็นเรื่องของคนสองคน เราอย่าเข้าไปจุ้นจ้าน รอคำปรึกษาที่เขาจะปรึกษาเรา เวลาเขาเกิดอะไรขึ้น
 

จริงไหมที่คิดว่าคนนี้คือเทวดาส่งมา ?
 

          แก้มบุ๋ม : แม่ไปบอกตอนไหน
 

          แม่ลี : ให้แม่พูดสิ เดี๋ยวลืม (หัวเราะ) เราจะสอนลูกเราว่าลูกเราคือเทวดาของแม่ ลูกชายคือเทวดา ลูกสาวคือนางฟ้า ลูกจะทำอะไรก็ได้ในบ้าน

         แต่อย่าไปทำแบบนี้ข้างนอก คุกจะรอพวกคุณ ถ้าวันหนึ่งมีลูกชายเข้ามาอีกคน เขาก็คือคนที่แม่รัก เหมือนลูกชายแม่ เขาก็คือเทวดาของแม่

         อันนี้บอกทุกคน ไม่ได้เป็นคำพูดที่เว่อร์ ฉันมีลูกสาว ลูกสาวฉันก็ต้องดีที่สุด ลูกชายก็ต้องดีที่สุด ฉันจะเลี้ยงพวกเธอทุกอย่าง ทำให้พวกเธอหมดเลย

         เหมือนเธอเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของฉัน แต่คำพูดว่าเทวดาคือคำพูดเฉพาะของเราในบ้าน

พ่อคิดเหมือนกันไหม ?
 

          พ่อเจน : ผมมองว่าเขาเป็นผู้ชายที่อบอุ่นคนหนึ่ง ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม แล้วมีความจริงใจ ไปไหนเขาทำงาน เขาลงมาหาบุ๋มที่บ้าน

       แต่ไม่ได้คุยกับบุ๋มนะ เขาเอาคอมมานั่งทำงาน บุ๋มก็ทำงานของบุ๋มไป แล้วเขาก็กลับบ้าน เขาเป็นคนไม่หยุดนิ่ง ทำงานตลอด

 

 

พ่อชอบ ?
 

          พ่อเจน : ใช่ ก็อยากฝากให้เขาดูแลต่อไปหลังจากแต่งงาน
 

เวลาคุยกับว่าที่ลูกเขย จะคุยอะไรกัน ?
 

          แก้มบุ๋ม : พ่อเป็นพีอาร์โรงพยาบาลค่ะ พีทพ่อฝากหน่อยคนนี้เข้าไปฝากดูหน่อยนะ พีทหมอคนนี้เป็นอย่างนี้ ๆ พีทคนนี้ดูแลเป็นแบบนี้

          เหมือนเป็นพีอาร์และดูแลความปลอดภัยทุกอย่าง ช่วงนี้มีวัคซีนอะไร มีโปรอะไรไหมพีท เดี๋ยวพ่อจะได้ไปบอกแม่ ๆ ที่โรงเรียนหลาน
 

          พ่อเจน : (หัวเราะ) เรามองถึงอนาคต ถ้าเขามาเป็นลูกเขยเราในอนาคต ธุรกิจเขาเราก็ต้องส่งเสริม เพื่อนผมที่ไปรักษาหลาย ๆ

          โรงพยาบาลมานี่หมด ใครมีปัญหาโทร. มาบอกนะเดี๋ยวจะคุยให้
 

แม่ล่ะ ?
 

          แม่ลี : ชอบคุยกับเขา เพราะเราชอบความงามเหมือนกัน มีอะไรใหม่เข้ามาในร่างกายก็จะคุยว่าแบบนี้ ๆ นะ เพราะตัวเองชอบเอาตัวเสริมมาช่วยในร่างกายเรา เราก็เลยคุยกันถูกคอ
 

          แก้มบุ๋ม : แม่ชอบคุยเรื่องนวัตกรรมกับเขา แม่เรียกพี่พีทยังไง
 

          แม่ลี : พี่พีท พี่พีท (เลียนแบบเสียงแก้มบุ๋ม) เหมือนนะ น่ารัก แก่แล้วยังเสียงเด็ก อัดวิตามินเข้าไป เสียงเด็ก ไม่มีนะคะ

         ลำคอก่อนจะนอนแล้วกรน มีแค่ลูกกะตาดำที่อัดไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวมองไม่เห็น จะไปอายอะไรล่ะคะ ที่เขาไม่อัดเขาเปลืองตังค์ แต่นี่อัดฟรีทุกที่
 

แหวนที่ใส่ เป็นแหวนที่เขาขอแต่งงาน หรือจะใช้เป็นวงเดียวกับตอนขอหมั้น ?
 

          แก้มบุ๋ม : น่าจะใช้วงนี้เลยค่ะ วงนี้เขาทำมาเหมือนวงแรกที่เขาให้ วงแรกเขาให้ 1 กะรัต ตอนคบกันปีแรก เราก็ใส่ติดนิ้วตลอด ไม่ใส่ไม่ได้

         เพราะเขาจะถาม ถ้าเราไม่ใส่แฟนคลับเขาก็ถาม ว่าทำไมไม่ใส่แหวน 4.19 กะรัตค่ะ มันมีความหมายคบกัน 4 ปี ปี 2019 จริง ๆ เขาอยากได้วันที่ 14

         แต่เขาบอกว่าถ้า 14 กะรัต เขาซื้อไม่ไหว เขาต้องขายบ้านแล้ว ก็เลยได้แค่ 4
 

          พ่อเจน : ถ้า 14 ก็คงยกมือไม่ขึ้น
 

          แก้มบุ๋ม : แหวนหลวม ยังไม่ได้ไปแก้เลยนะ (หัวเราะ)
 

          แม่ลี : บอกเขาไปว่าผอมลงค่ะลูก นิ้วหลวม จะได้ไม่น่าเกลียด
 

แต่งแล้วมีลูกเลยไหม ?
 

          แก้มบุ๋ม : ยังค่ะ หนูไม่เคยใช้ชีวิตคู่ ก็ไม่อยากให้มีช่วงเวลาที่ขาดเหมือนแม่ ไม่ได้เที่ยวไม่ได้อะไร ก็อยากใช้ชีวิตคู่สักปีหรืออย่างเร็วสุดคือครึ่งปี

          แล้วค่อยคิดว่าจะมี เราฝากไข่แล้ว ฝากตอนแรกได้ 8 ฟอง ฝากตั้งแต่อายุ 31 ตั้งแต่เจอพี่พีทเราก็ฝากเลย (หัวเราะ) จริง ๆ ต้องฝากอีกรอบหนึ่ง

พ่ออยากมีหลานหรือยัง ?
 

          พ่อเจน : ใจผมก็อยากให้มี เราก็อายุเยอะแล้ว เขาบอกรออีก 2-3 ปี ถ้าเราไม่อยู่ล่ะ
 

          แก้มบุ๋ม : อยู่ค่ะ จะไปไหนเอ่ย
 

          พ่อเจน : อ้าว เผื่อหลับไปเฉย ๆ
 

          แม่ลี : ทุกคนเมื่อมีครอบครัวก็อยากเห็นหลาน แต่ตัวเองทุกอย่างแล้วแต่ลูก เขาพร้อมเมื่อไหร่ก็ให้เขาจัดการ แล้วเราคอยเฝ้ามองอยู่แล้ว มีหรือไม่มีก็คอยดู
 

ถ้ามีหลานไม่ต้องไปเที่ยวแล้วได้ไหม ให้อยู่เลี้ยงหลาน ?
 

          แก้มบุ๋ม : คิดหนัก (หัวเราะ)
 

          แม่ลี : ก็บอกทุกคนว่าแวะไปแวะมาได้ (หัวเราะ) ถ้าเกิดเราติดหลานหรืออะไรก็แล้วแต่เราจะหมดเลย เพราะทำอะไรแล้วทำจริง จะมุ่งอยู่ที่นั่น เราต้องทำอะไรอีกเยอะ
 

อยากบอกอะไรลูกสาว ?
 

          พ่อเจน : พ่อก็ดีใจในการแต่งงานครั้งนี้ ถึงจะอยู่คนละบ้าน แต่ใจเราก็ยังคิดถึงกันตลอดเวลา ถ้าคิดถึงพ่อก็มาหาพ่อ ถ้าพ่อคิดถึงก็ไปหา
 

          แม่ลี : การมีครอบครัวก็เป็นเรื่องธรรมชาติ จะรักขนาดไหนเขาก็ต้องไปอยู่กับคนที่เขารัก เราเป็นแม่ก็คอยมองทุกอย่าง แล้วให้กำลังใจให้คำปรึกษา

          ในวันที่เขาต้องการคำปรึกษาจากแม่ เพราะคำจากแม่บริสุทธิ์ที่สุดที่จะคุยกับลูก
 

แก้มบุ๋มอยากพูดอะไรกับพ่อแม่ ?
 

          แก้มบุ๋ม : ยังไงก็เหมือนเดิม บางทีอยู่บ้านหนูก็เป็นสีสัน กุ๊กกิ๊ก ๆ วุ่นวาย ต่อให้หนูย้ายบ้านไป แต่หนูก็กลับมาอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง พ่อไม่ต้องเป็นซึมเศร้า แม่ก็เที่ยวน้อยลง (หัวเราะ)